ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปัญหาของนักศึกษาและนักวิจัยชาวไทยในอินเดีย




  😇 หลายคนอาจจะคิดว่าระบบการศึกษาของอินเดียไม่ดีสู้ไทยไม่ได้ ความจริงระบบการศึกษาอินเดียดีเพราะอังกฤษวางรากฐานไว้ให้ แม้ว่าอังกฤษจะเอาทรัพยากรจากอินเดียไปมากแต่ทุกวันนี้อินเดียยังรู้สึกขอบคุณอังกฤษในเรื่องนี้ หลายเรื่องอินเดียรู้ลึกรู้จริง เพราะมีการเปิดเสรีทางความคิดโต้เถียงกันระหว่างผู้เรียน และนักวิชาการต่าง ๆ ตลอด..ทั้งการประชุม สัมมนา และในชั้นเรียน แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้เชื่อตามขนบอยู่ แต่เนื่องจากอินเดียมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมจึงมีทั้งผู้เชื่อตามและไม่เชื่อตาม..มีความคิดหลากหลาย มีการใช้วิพากษวิธีอย่างลึกซึ้ง ทำให้เกิดความเจริญงอกงามในทางการศึกษาและศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะภารตวิทยา ที่แม้ฝรั่งเองก็จ้างคนอินเดียไปสอนเรื่องนี้เช่นกัน

    😇 แต่ระบบราชการอินเดียต่างหากที่ล่าช้ามาก และถ้าคุณเป็นชาวต่างชาติในประเทศจน ๆ ไม่ใช่ฝรั่ง เจ้าหน้าที่อินเดียจะเลือกปฏิบัติ ดังนั้นถ้ามาจากไทยแล้วไม่รู้จักใครเลยไม่มีแขกอินเดียช่วยเดินเรื่องให้ก็นั่งรอเป็นวัน ๆ

   😇 นอกจากนี้ข้อมูลทะเบียนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่อยู่ในระบบคอมฟิวเตอร์ แต่อยู่ในรูปเอกสาร ถ้าคุณจ่ายเงินลงทะเบียนต้องเก็บใบเสร็จทั้งหมดไว้มันอาจจะยังไม่ขึ้นระบบหรือไม่ขึ้นเลย เคยมีข่าวว่า นศ. อินเดียเองสอบผ่านระบบออนไลน์แต่ทางมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งส่งผลการเรียนช้าทำให้นักศึกษาไม่ได้ทุนเรียนกว่าร้อยคน ที่มหาวิทยทลัยส่งช้า เพราะระบบอินเดียทุกอย่างแม้แต่การเซ็นรับว่านักศึกษาจ่ายเงินแล้วรายคนก็ต้องผ่านอธิการบดีทั้งหมด แค่ทะเบียนเซ็นอย่างเดียวไม่พอ (ระบบของบางมหาวิทยาลัย) มันไม่ลิงก์กันแบบบ้านเราประเภทจ่ายปุ๊บขึ้นระบบคอม ฯ ปั๊บ



  😇 ข้อควรระวังในการมาเรียนอินเดีย

1. ควรเลือกมหาวิทยาลัยที กพ. รับรองเท่านั้น และควรดูประวัติของมหาวิทยาลัยด้วย เพราะบางมหาวิทยาลัยมีชื่อ กพ. รับรองแต่จบกลับมา สกอ. ไม่รับรองเพราะไม่ไปเรียนหลักสูตร full time ในอินเดียต้องเรียนหลักสูตรเต็มเวลาเท่านั้น ประเภทอื่น ๆ จบมา สกอ. ไม่รับรอง และในอินเดียเองถ้าไม่ใช่นักศึกษาฟูลทาม full time ทางฝ่ายทะเบียนและอาจารย์ก็จะไม่ค่อยให้ความสนใจด้วย

2. อินเดียมาวีซ่าอะไร จะต้องทำอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นโดนจับ (วีซ่ามาเรียนก็เรียนไป วีซ่ามาทำงานก็ทำงานไป) และห้ามมาอินเดียสองถึงสามปี เช่นเดียวกันถ้าวีซ่าหมดอายุในอินเดีย ต้องทำเรื่องขอต่อในอินเดียให้ได้ เแต่จะไม่มีโรงแรมไหนยอมให้คุณเข้าพัก นอกจากหอพักนักศึกษา หรือบ้านของชาวไทยที่รู้จักคุณดี ในระหว่างนั้นห้ามถูกตำรวจจับเด็ดขาด ฯลฯ ซึ่งการเดินเรื่องขอต่อวีซ่าหมดอายุในอินเดียล่าช้ามากเป็นปี ๆ และเสียค่าปรับเป็นปีเช่นกันนับจากวีซ่าหมดอายุ และถ้าส่งเงินไปผิดธนาคารก็ต้องส่งใหม่ เสียสองรอบ ยุ่งยาก ล่าช้ามาก แต่ถ้ากลับไทยเลยก็จะห้ามมาอินเดีย สองถึงสามปี ซึ่งจะมีปัญหาสำหรับคนที่ต้องกลับมาสอบวิทยานิพนธ์ หรือเรียนอยู่ในอินเดียอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นควรดูวันเวลาต่อวีซ่าก่อนหมดอายุ

3 ถ้าคุณไม่ได้ทุนรัฐบาลอินเดีย ก่อนมาเรียนอินเดียผู้ปกครอง หรือตัวคุณเองจะต้องมีเงินในบัญชีหนึ่งแสนขึ้นไป หลายคนที่เป็นคนไทยจึงมาเรียนอินเดียด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวต่อทุกสามเดือนเพราะค่าใช้จ่ายการเรียนอินเดียถูกเหมือนเยอรมัน แต่พอจบไปมีปัญหาการรับรองจาก สกอ. ที่ไม่เชื่อว่ามาเรียนจริงเพราะไม่ใช้วีซ่านักศึกษา สร้างภาพลักษณ์ว่าการเรียนอินเดียไม่มีคุณภาพจึงไม่ได้รับการรับรองจากสกอ. ความจริง นศ. ไทยในอดีตขี้โกงทำไม่ถูกต้องเอง

4. กรณีที่คุณได้ทุนรัฐบาลอินเดีย วีซ่าง่ายแต่เวลามาอินเดีย ถ้ามาแค่เดือน - สามเดือน ไม่ถึงหนึ่งปี จะซื้อซิมโทรศัพท์ไม่ได้ แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะออกใบรับรองจากคณบดี และอธิการบดีมาให้ เพราะโทรศัพท์จำเป็นมาก ถ้าคุณจะติดต่อราชการ หรือเข้าพักในโรงแรมหอพักต่าง ๆ ก็ต้องบอกเบอร์ อาจจะเป็นเบอร์เมืองไทยที่เปิดโรมมิ่งไว้ หรือแพ็คเกจสามเดือน หนึ่งเดือนที่ใช้โทรอินเดียได้ที่ซื้อมาจากเมืองไทย แต่ถ้ามาปีหนึ่งขึ้นไปขอใบรับรองว่าเป็นนักศึกษาจากอธิการบดีมาซื้อซิมอินเดียได้อยู่ แต่ตอนซื้อซิมควรให้เพื่อนชาวอินเดียมาด้วยเผื่อมีปัญหาเพื่อนชาวไทยเอามาก็พึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้ เพราะไม่รู้เรื่องเนื่องจากมันก็ให้เพื่อนแขกเปิดระบบให้ซึ่งการเปิดระบบเดี๋ยวนี้ยุ่งยาก มีสะแกนและส่งข้อความโต้ตอบไปมาหลายครั้ง ถ้าไม่ทำในเวลาที่กำหนดระบบปิด และคนซื้อจะถูกขึ้นบัญชีดำไม่รับหลักฐานเดิม คือห้ามซื้อ (เพราะเขากลัวผู้ก่อการร้ายมาซื้อไปทำระเบิด) ซึ่งซิมโทรศัพท์ต้องซื้อก่อน  เปิดบัญชีธนาคาร เพราะไม่อย่างนั้นให้เบอร์เมืองไทยไป จะใช้เปิดบัตร ATM ไม่ได้ โดยเฉพาะธนาคารของรัฐบาลบัตรจะต้องใช้เบอร์โทรของประเทศอินเดียเป็นรหัสรับส่งข้อความขอเปิดใช้ ATM ถ้าคุณทำผิดสองสามครั้ง ไม่มีข้อความเข้าตามเวลาที่กำหนดกรอกเบอร์และรหัสไม่ทัน เช่นกันบัตรถูกล็อกใช้ไม่ได้อีกเลย

5. บัญชีธนาคารที่เปิดจะต้องเป็นธนาคารที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลอินเดียเเท่านั้น ในบางมหาวิทยาลัยธนาคารที่มหาวิทยาลัยใช้ ให้นักศึกษาจ่ายเงินค่าลงทะเบียน กับธนาคารที่ทางหน่วยงานที่มอบทุนให้ไม่ใช่ธนาคารเดียวกัน อยู่ห่างกันแบบเดินข้ามภูเขาเป็นลูก ๆ เลยก็ต้องให้เพื่อนแขกพาไปเปิด ถ้าเราไปเองจะเจอคำถามร้อยแปดพันเก้า แต่ถ้าเพื่อนแขกไปจะง่ายกว่า เรียกว่ามาเรียนอินเดียต้องเป็นหนี้บุญคุณแขกอินเดียมากนักได้เรียนรู้ว่าแขกดี ๆ ก็มีบ้าง

6. สำหรับบัตรไทย ก็มีข้อระวังคือ ปัญหากดแล้วเงินไม่ออกแต่ถูกริบบัตรไป กรณีที่ไม่เขียนชื่อหลังบัตรไว้ ทางธนาคารอินเดียบางแห่งจะไม่คืนบัตรให้แต่จะเอาบัตรเรามาหักทิ้งให้เห็นต่อหน้าเลย ดังนั้นตู้ไหนที่กดได้ไม่จำเป็นอย่าเปลี่ยน และกรณีบัตรไทยต้องดูวันหมดอายุบัตรด้วยโดยเฉพาะพวกที่มาฝังตัวในอินเดียนาน ๆ มักลืมดูวันหมดอายุ เมื่อหมดอายุจะโทรกลับมาขอร้องอย่างไรธนาคารในเมืองไทยก็ไม่ให้ใช้ ต้องให้ทางบ้านทำบัญชีใหม่และส่งบัตรใหม่จากเมืองไทยมาเท่านั้น ในที่อยู่ที่ปลอดภัย ช่วงนั้นก็เป็นนกวายุภักษ์กินลมไป หรือไม่ก็ไปขอยืมเงินจากเพื่อนชาวไทยหรือต่างชาติในอินเดียกรณีถ้ามี และเขามีนะ ซึ่งอันหลังนี้น่าจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของชาวไทยในต่างประเทศไม่น้อย

7. กฏเกณฑ์ต่าง ๆ ในอินเดียเปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อจบจากอินเดียไปนาน ๆ แล้วกลับมาอีกครั้งอย่าคิดว่าที่เคยทำได้จะได้เหมือนเดิม อย่างการซื้อซิมเมื่อก่อนแค่เป็นนักศึกษามีสังกัดมหาวิทยาลัยใช้วีซ่าซื้อแจกเพื่อนชาวไทยที่แวะมาเยียมอินเดียได้เป็นสิบ เปิดซิมใช้ก็ง่าย แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้วขั้นตอนการซื้อยุ่งยากถ้ามาไม่ถึงปีถึงมหาวิทยาลัยออกไปรับรองให้ซื้อแต่ทางร้านได้กำไรน้อยเขาก็ไม่ขายให้แล้ว

    😇 สุดท้ายทุก ๆ ที่มีทั้งคนดีและไม่ดี ส่วนการเรียนในอินเดียนั้นมีสถาบันการศึกษาที่ กพ. รับรอง และถ้าเรามาอย่างถูกต้อง จบไปอย่างถูกต้อง ไม่จ้างใครทำวิทยานิพนธ์ ไม่ลักไก่มักง่ายใช้วีซ่าอื่นมาเรียน ฯลฯ ตามที่ สกอ.ของเรากำหนด สกอ. ย่อมรับรองหลักสูตรตามที่ทางรัฐบาลอินเดียรับรองแน่นอน ดังนั้นตรวจสอบให้ดี และทำให้ถูกต้องตามที่เขากำหนด



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระนาด ฆ้องวง และกรับโบราณมีอยู่ทั่วโลก

ระนาด xylophone   😇 ระนาดเป็นเรื่องดนตรีเก่าแก่มีมาแต่ยุคหินใหม่ สมัยแรก ๆ ที่มนุษย์รู้จักการเคาะห์หินงอกหินย้อยในถ้ำให้เกิดจังหวะเช่นเดียวกับกรับไม้ โดยชื่อเรียกเครื่องดนตรีประเภทระนาดในประเทศต่าง ๆ เรียกต่าง ๆ กันฝรั่งเรียกว่า  xylophone โดยยังแยกย่อยเป็น ถ้าทำด้วยหินเรียกว่า  lithophone ทำด้วยเหล็กเรียกว่า    metallophone   แอฟริกาเรียกว่า marimba (ส่วนใหญ่ทำด้วยไม้) เป็นต้น ที่จัดไว้ว่าเป็นระนาดก็เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เรียงเป็นรางเหมือนกัน แต่มีทั้งที่เป็นหิน โลหะ ไม้ ชาม และปัจจุบันมีแก้วด้วย     😇 ระนาดโบราณของแอฟริกา Stone marimba / lithophone      ขุดพบในทะเลทรายสะฮารา (ซาฮารา หรือ สาฮารา : Sahara) เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศส จากการตรวจสอบทางโบราณคดีละธรณีวิทยาพบว่ามีอายุถึงยุคหินใหม่ (8,000-2500 ปีก่อนคริสตกาล {+2019 หรือคศ.ปัจจุบัน} อาจจะเป็นระนาดที่เก่าที่สุดในโลก ถ้ายังไม่มีการค้นพบใหม่) ภาพ มาริมบ้า(ระนาดแอฟริกา) หินโบราณหมื่นปีในทะเลทรายสะฮารา ที่มา  https://gajitz.com/worlds-oldes...

"ซอ" แขกจีนฝรั่งแอฟริกามีหมดแต่ไม่เหมือนกัน

ซอทั่วโลก The Bowing String instruments      ซอเป็นเครื่องดนตรีที่มีความเก่าแก่มีต้นกำเนิดยาวนาน ในช่วงหนึ่งพันปีหรือสองพันปีก่อนซอกลายเป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายอยู่ทั่วโลกทั้งเอเซียและยุโรป กรีก อียิปต์ คาบสมุทรอาหรับ (Arabian Peninsula) แอฟริกา เปอร์เซีย อินเดีย จีน ญี่ปุ่น มองโกล และอาเซียน ฯ ลฯ ก่อนกลายเป็นต้นกำเนิดของไวโอลิน (ซอฝรั่ง) 😇 Tarawangsa ซอสองสาย นิยมเล่นในอินโดนีเซียตะวันตก ภาพ Tarawangsa ที่มา  http://graphic.nobody.jp/irom/musical_instruments/bow_tarawangsa.html 😇 Rebaba/Rebab เป็นซอหนึ่งสาย สองสาย สามสาย หรือสี่สาย ที่แพร่หลายในอียิปต์ เปอร์เซีย  หมู่ชาวอิสลาม และชวามลายู ภาพ ราบาบา ซออียิปต์แบบที่ 1 (หนี่งสาย) ที่มา  http://graphic.nobody.jp/irom/musical_instruments/bow_rababa_egypt.html ภาพ ราบาบา ซออียิปต์แบบที่ 2 (สองสาย) ที่มา  https://egyptiancentermakan.wordpress.com/rababa/ Rebaba/Rebab 2 string Rebaba/Rebab 4 string 😇    goje (gonjey , gonje, , nja...

ปี่มีทั่วโลกไม่ได้มีที่ชวาเท่านั้น

ปี่ Oboe/Clarinet       😊 เป็นเครื่องดนตรีชนิดเป่าลม ที่เรียกว่า aerophone instruments ที่เก่าแก่โบราณควบคู่กับขลุ่ย แต่ปี่ Oboe/Clarinet ต่างจากขลุ่ย Flute ตรงที่ต้องอาศัยลิ้นต่อช่วยในการเป่าล้มให้เกิดเสียงดนตรี  ตามหลักฐานทางโบราณคดีทำให้นักวิชาการส่วนใหญ่เชื่อกันว่าปี่น่าจะมีต้นกำเนิดและพัฒนาการจากปี่โบราณของกรีก และอียิปต์มากว่า 2,700 ปี ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นแอฟริกา เปอร์เซีย ปากีสถาน อินเดีย จีน ธิเบต อินโดนีเซีย ฝรั่ง ฯลฯ        😊 สำหรับปี่ต่างชาติที่คนไทยรู้จักดีก็คือปี่ชวา แต่ความจริงปี่นั้นไม่ได้มีที่ชวาเท่านั้น เพราะปัจจุบันปี่ซึ่งมีอยู่ทั่วโลกนั้นก็ยังเป็นที่นิยมเล่นกันอยู่ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ที่คนไทยเรียกปี่โบราณที่เป็นของต่างชาติว่าปี่ชวาก็อาจจะรับมาหรือได้รับอิทธิพลผ่านทางชวามลายู ซึ่งมีช่องแคบมะละกา Malacca ที่เป็นเมืองท่าและจุดค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติในสมัยโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งในอีกหลาย ๆ แห่งบนโลกยุคโบราณ   😇 zummara คือปี่โบราณที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดนิยมเล่นในอียิปต์โบราณ...